วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สาคูไส้หมู










สาคูไส้หมู



สาคูไส้หมูมีรสชาติเค็ม หวาน และหอมกระเทียมเจียว เหนียวนุ่มจากตัวสาคูที่นึ่งจนสุกเข้ากันอย่างมากกับไส้ที่ผัดจนเข้ากันดี รับประทานคู่กับผักสดและพริกขี้หนู
สูตรอาหารสาคูไส้หมู
• เวลาในการทำ 50 นาที
• ส่วนผสมสำหรับ 15-20 ลูก
วัตถุดิบ
1. สาคูเม็ดเล็ก 250 ก.
2. น้ำร้อน 200 มล.3. หมูสับ 50 ก.
4. ไชโป้วเค็มสับละเอียด 50 ก.
5. ถั่วลิสงคั่วป่นหยาบ 70 ก.
6. น้ำตาลปี๊ป 2 ชต.
7. น้ำปลา ½ ชต.
8. หอมแดงสับละเอียด 2 ชต.
9. กระเทียมเจียว 2 ชต.
10. น้ำมันถั่วเหลือง 3 ชต.
11. น้ำมันกระเทียมเจียว 3 ชต.
โขลกรวมกันให้ละเอียด
12. รากผักชี 1 ราก
13. กระเทียมปอกเปลือก 1 เม็ด
14. พริกไทยเม็ด 2 ชช.
ผักแกล้ม
15. ผักกาดหอม
16. พริกขี้หนูสวน
17. ผักชี
วิธีทำ
1. เทน้ำร้อนลงในถ้วยสาคูและคนให้เข้ากัน จากนั้นใช้มือนวดให้แป้งสาคูเริ่มเหนียวจนสามารถปั้นได้ พักไว้
2. ตั้งกระทะให้ร้อนและเทน้ำมันลงไปผัดรวมกันกับรากผักชี กระเทียม พริกไทยที่โขลกไว้แล้ว จากนั้นเติมหอมแดงลงผัดให้หอม
3. เติมหมูสับลงไปผัดให้สุก ตามด้วยไชโป้วสับละเอียด น้ำตาลปี๊ป น้ำปลา ผัดด้วยไฟอ่อน 10 นาที จนส่วนผสมเริ่มแห้งค่อยเติมถั่วลิสงลงไปผัดให้เข้ากัน พักไส้ไว้ให้เย็น และปั้นเป็นลูกกลมขนาด 2 ซม.
4. ปั้นแป้งสาคูเป็นก้อนกลมขนาด 1 ½ นิ้ว กดให้แบนและวางไส้ลงตรงกลางแป้งสาคูหุ้มแป้งสาคูจนปิดไส้หมด
5. ต้มน้ำให้เดือดและนำลงนึ่ง 15 นาที ตักขึ้นคลุกในน้ำมันกระเทียมเจียว เสิร์ฟพร้อมผักเคียงและโรยหน้าสาคูด้วยกระเทียมเจียว เป็นอันเสร็จ 



การทำข้าวเกรียบปากหม้อ

การทำข้าวเกรียบปากหม้อ


ส่วนผสมของแป้ง

1. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย2. แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ3. แ้ป้งเท้ายายม่ิอม 1 ช้อนโต๊ะ (แป้งซึ่งทำมาจากหัวหรือรากของต้นเท้ายายม่อม)4. น้ำเปล่า 3 ถ้วยทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อเมื่อเตรียมส่วนผสมดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้วก็มาเริ่มทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อกันเลย ซึ่งวิธีทำ ให้นำทั้งแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแ้ป้งเท้ายายม่ิอม ซึ่งได้เตรียมไว้เทผสมกันลงไป แล้วค่อยๆ เทน้ำลงไป นวดแป้งไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งจะเหนียว เท่านี้ก็ได้แป้งไว้สำหรับทำข้าวเกรียบปากหม้อแล้วเมื่อได้แป้งแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นตัวตัดสินความอร่ิอยของข้าวเกรียบปากหม้อก็คือไส้นั่นเอง ซึ่งวิธีทำก็ไม่ยากอีกเช่นกันส่วนผสมของไส้ข้าวเกรียบปากหม้อ1. เนื้อหมู สับให้ละเอียด 2 ขีด2. ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 3 ขีด3. ไชโป๊วสับละเอียด 3 ขีเ4.หอมแดง 10 หัว (นำมาสับละเอียด)5. น้ำตาลปี๊บ 1 ขีด6. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะวิธีทำไส้ข้าวเกรียบปากหม้อ1. ตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อน และนำหมูสับละเอียดที่เตรียมไว้ไปผัดให้สุก2. ใส่หอมแดง กับไชโป๊วที่ได้เตรียมไว้ลงไปผัดกับหมูสับให้เข้ากัน3. เมื่อเข้ากันดีแล้วให้เทน้ำตาลปี๊บกับน้ำปลาที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ซึ่งจะทำให้มีรสชาติออกหวานเค็ม โดยอาจปรับปริมาณน้ำตาลปี๊บกับน้ำปลาได้ เพื่อให้ได้รสชาติที่ท่านโปรดปราน4. ใส่ถัวลิสงคั่วบดหยาบลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วใช้ไฟอ่อนๆ ผัดไปเรื่อยจนไส้จับตัวเป็นก้อนเดียวกัน ก็เป็นอันสำเร็จเมื่อได้เตรียมไส้กับแป้งพร้อมแล้ว เราก็พร้อมที่จะเริ่มทำข้าวเกรียบปากหม้อแสนอร่อยกันซักทีวิธีทำข้าวเกรียบปากหม้อ1. นำผ้าขาวบางมาแช่น้ำ จนผ้าอิ่มน้ำ แล้วนำมาผูกไว้กับปากของหม้อนึ่ง แล้วนำมาตั้งไฟให้น้ำเดือด2. เทแป้งที่ได้เตรียมไว้ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ แล้วใช้ทัพพีเกลี่ยแป้งให้ทั่วผ้าขาว เป็นแผ่นบาง  หลังจากนั้นให้ปิดฝาไว้ รอแป้งสุก3. เมื่อแป้งสุกแล้ว (สังเกตได้จาก สีจะใสๆ) ก็ให้ปั้นแป้งเป็นก้อนวางลงไป (วางลงไปตรงกลาง)4. หลังจากใส่ไส้แล้ว ให้ปาดแป้งให้มาคลุมใส้ให้มิด เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยกับข้าวเกรียบปากหม้อ 1 ชิ้น พร้มตักใส่จานพร้อมผักเคียงเป็นไงบ้างครับ ไม่ยากเลยใช่ไหม สำหรับการทำข้าวเกรียบปากหม้อแสนอร่อย ซึ่งใครๆก็สามารถนำไปทำเองที่บ้านได้อย่างแน่นอน

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เครปเค้กดอกกุหลาบ

เครปเค้กดอกกุหลาบ Rose Crape Cake เค้ก


วันแม่  - Mother’s Day Cake (เมนูวันแม่) 

 
 
  #2  URL <input style='width: 400px' type=text value = 'http://data.foodtravel.tv/datastore/recfood/2225/recfood2225_1_normal.jpg' />         <script language='javascript1.1' src='http://hits.truehits.in.th/data/t0029930.js'></script><NOSCRIPT><a target='_blank' href='http://truehits.net/stat.php?id=t0029930'> <img src='http://hits.truehits.in.th/noscript.php?id=t0029930' alt='Thailand Web Stat' border=0 width=14 height=17></a><a target='_blank' href='http://truehits.net/'>Truehits.net</a></NOSCRIPT>                   #6  URL <input style='width: 400px' type=text value = 'http://data.foodtravel.tv/datastore/recfood/2225/recfood2225_5_normal.jpg' />         <script language='javascript1.1' src='http://hits.truehits.in.th/data/t0029930.js'></script><NOSCRIPT><a target='_blank' href='http://truehits.net/stat.php?id=t0029930'> <img src='http://hits.truehits.in.th/noscript.php?id=t0029930' alt='Thailand Web Stat' border=0 width=14 height=17></a><a target='_blank' href='http://truehits.net/'>Truehits.net</a></NOSCRIPT>
 
 
เครปเค้กดอกกุหลาบ Rose Crape Cake เค้กวันแม่  - Mother’s Day Cake (เมนูวันแม่)  เครปเค้กที่ขึ้นรูปเป็นดอกกุหลาบ จัดเป็นพุ่มดอกไม้เสิร์ฟในจานให้คุณแม่ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ อร่อยส่วนผสมน้อย และยังเก๋มากด้วยนะคะ.

สูตรเครปเค้กดอกกุหลาบ Rose Crape Cake เค้กวันแม่  - 


Mother’s Day Cake (เมนูวันแม่) 


สำหรับ 1 ก้อน
เวลา 1 ชั่วโมง

อุปกรณ์เครปเค้กดอกกุหลาบ Rose Crape Cake เค้กวันแม่  - Mother’s Day Cake (เมนูวันแม่)
1. กระทะก้นแบน
2. ตะกร้อตีไข่
3. ชามผสม
4. ถุงบีบครีม
5. กรรไกร
6. มีด
7. ตะแกรง
8. กระดาษไข

ส่วนผสมเครปเค้กดอกกุหลาบ Rose Crape Cake เค้กวันแม่  - Mother’s Day Cake (เมนูวันแม่)
1. เนยเค็ม 30 กรัม
2. นมสดรสจืด 180 มิลลิลิตร
3. น้ำหวนสีต่างๆ (น้ำแดง,น้ำเขียว) 50 มิลลิลิตร
4. ไข่ไก่ 3 ฟอง
5. แป้งอเนกประสงค์ 80 กรัม
6. วิปครีมประมาณ 200 มิลลิลิตร

วิธีทำเครปเค้กดอกกุหลาบ Rose Crape Cake เค้กวันแม่  - Mother’s Day Cake (เมนูวันแม่)
1. ต้มเนยเค็มและและนมสดรสจืดจนเดือด
2. ยกลงจากเตา
3. ใส่ไข่ไก่ ตีผสมด้วยตะกร้อจนเข้ากัน
4. ค่อยๆใส่แป้งอเนกประสงค์ และตีต่อจนเข้ากันเนียนไม่มีเม็ดแป้ง
5. ใส่น้ำแดง,น้ำเขียว ในปริมาณตามชอบ
6. นำกระทะก้นแบนตั้งไฟอ่อนทากระทะบางๆด้วยเนย.
7. ตักแป้งเครปที่ได้ใส่ในกระทะ
8. กลิ้งกระทะจนแป้งเครปทั่วกระทะ
9. เมื่อแป้งสุกนำมาพักบนแผ่นกระดาษไขจนเย็น
10. ทำซ้ำไปเรื่อยๆจนได้แผ่นแป้งเครปตามต้องการ
11. นำแผ่นเครปสีชมพูมาตัดและม้วนขึ้นรูป โดยใช้ครีมบีบใส่ให้แต่ละแผ่นเชื่อมติดกัน เป็นดอกกุหลาบ
12. ทำไปเรื่อยๆ จนได้มากพอจะจัดใส่จานเต็มจาน
13. นำจานที่เตรียมไว้ทาด้วยครีมจนเป็นทางโดม
14. นำดอกกุหลาบที่ทำไว้มาจัดวางบนครีมให้สวยงาม
15. ตัดแบ่งเครปสีเขียวให้มีลักษณะเหมือนใบไม้
16. จัดแต่งแซมในช่องที่วางระหว่างดอกกุหลาบจนทั่ว
17. จะปักการ์ดบอกรักคุณแม่ หรือโรยตกแต่งให้สวยงามด้วยเกร็ดน้ำตาลแต่งหน้าเค้ก ก็ได้ตามชอบค่ะ

วุ้นลำไย - ลำไยอัญมณี

วุ้นลำไย - ลำไยอัญมณี


ขนมสมัยคุณแม่ที่ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน ด้วยจุดเด่น คือ สีสันที่สวยงาม และความง่ายของการทำ เนื้อลำไยไร้เม็ดเข้ากันได้ดีกับวุ้นกรุบกรอบด้านใน ^^

สูตรวุ้นลำไย - ลำไยอัญมณี


สำหรับ 30-35 ชิ้น
เวลาในการทำ 45 นาที

อุปกรณ์

1. มีดคว้าน
2. หม้อ
3. ช้อน
4. ชามผสม

ส่วนผสมวุ้นลำไย - ลำไยอัญมณี

1. ลำไยคว้านเม็ด 350 กรัม
2. วุ้น 1 1/2 ช้อนชา (4 กรัม)
3. น้ำเปล่า 500 กรัม
4. น้ำตาลทราย 100 กรัม
5. สีผสมอาหาร (ตามชอบ)

วิธีทำวุ้นลำไย - ลำไยอัญมณี

1. ปอกเปลือกลำไยและคว้านเม็ดออก
2. ต้มน้ำเปล่าให้เดือด
3. ใส่ผงวุ้น และน้ำตาล
4. นำขึ้นต้มต่อจนเดือด
5. แบ่งเป็นชามๆ ใส่สีผสมอาหาร ตามชอบ
6. หยอดลงในลำไย
7. นำเข้าตู้เย็นจนแข็งดี
8. ใส่จานเสิร์ฟ

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การทำขนม

การทำขนม



วิธีทำ
 
1. แบ่งครีมเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน ส่วนแรกนำไปแช่ช่องแข็งให้เย็นจัดๆ ไม่ควรแช่เกิน 10 นาที เพราะถ้าแข็งแล้วจะใช้ไม่ได้
2. อุ่นครีมที่เหลืออีก 1/2 ถ้วยตวง ในไมโครเวฟ ประมาณ 1 นาที 20 วินาที โดยตั้งเวลาทีละ 30 วินาที แล้วนำออกมาคน เพื่อให้ครีมร้อนทั่วกัน
3. เทครีมลงในชามผสมที่ใส่ Dark Chocolate ไว้ แล้วพักไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วคนให้เข้ากันจนเนียนดี ใส่เหล้าส้มลงไปแล้วคนให้เข้ากัน พักให้คลายร้อน
4. สับ White Chocolate ให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปแช่ช่องแข็งไว้
5. ตีครีมส่วนที่แยกไว้ส่วนแรกให้ข้นขึ้น พอที่จะยกตะกร้อขึ้นแล้ววนเป็นเลข 8 ได้
6. แบ่งครีมที่ตีได้ครึ่งส่วนผสมลงไปในครีมช็อคโกแลตในข้อ 3 แล้วผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทผสมกลับลงไปในชามครีม โดยแบ่งผสม 2 รอบ เมื่อเข้ากันดีแล้ว ก็เทไวท์ช็อกที่แช่เย็นไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ผิดด้วยพลาสติกแล้วนำไปแช่เย็นในช่องธรรมดาไว้ประมาณ 30 นาที
7. เทมูสช็อคโกแลตที่ได้ลงในถุงบีบ ที่ใส่หัวบีบไว้ ตักแยมใส่ลงในภาชนะที่เตรียมไว้ บีบมูสลงไป นำเข้าแช่เย็นจนกว่าจะพร้อมรับประทาน เก็บได้ไม่เกิน 2 วันค่ะ เพราะไม่มีเจลาติน
 
Sweet Tips
ตามปกติแล้วเราจะเก็บช็อคโกแลตไว้ในตู้เย็น แต่เมื่อต้องการนำมาใช้ ควรทิ้งให้คลายเย็นจัดเสียก่อน เพราะไม่อย่างนั้นครีมที่อุ่นร้อนแล้ว จะไม่สามารถทำให้ช็อกโกแลตละลายได้หมด และทำให้เราต้องนำไปอุ่นเพิ่ม ซึ่งอาจจะทำให้ครีมแตกมันมากขึ้นได้  แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ เราสามารถนำไปวางบนชามที่ใส่น้ำร้อนแล้วทิ้งไว้ให้ช็อคโกแลตและครีมค่อยๆ ละลายเข้ากันจนหมดค่ะ